Blog Full Width

ขับรถเที่ยวลาว แบบครบทั้งการเตรียมตัว และค่าใช้จ่าย
 
เดี๋ยวนี้การเดินทางไปเที่ยวลาวไม่ยากอีกต่อไปแล้ว เพราะการเดินทางสะดวกรวดเร็ว รวมถึงคุณ malibubeat ห้องบลูแพลนเน็ต เว็ปไซต์พันทิป ดอทคอม ที่ประทับใจกับทริปเที่ยววังเวียงเมื่อหลายปีก่อน เมื่อสิ้นปีที่ผ่านมาจึงรวมตัวกับเพื่อนๆ เดินทางไปเที่ยววังเวียงอีกครั้ง โดยคราวนี้ขับรถไปเอง อ่านแล้วต้องนึกสนุกอยากไปเที่ยวตามพวกเขาแน่ๆ พร้อมแล้วตามแก๊งนี้ไปกันเลยค่ะ

เคยไปวังเวียงมาเมื่อปีใหม่ปี 2011 แต่ไปแค่คืนเดียวเพราะไม่ได้เตรียมตัว ปีนี้เลยเตรียมตัวเพื่อจะได้เที่ยวให้ทั่ววังเวียง (4วัน 3คืน ก็ยังไม่ทั่วอยู่ดี) แล้วก็อาจจะเขียนไม่ละเอียดมากนะครับ ถ่ายรูปก็ไม่สวย ไม่ได้วางแผนว่าจะรีวิว แต่เพื่อนๆเรียกร้อง เป็นการเขียนครั้งแรก ต้องขออภัยด้วยครับ

เริ่มจากชวนเพื่อน เมื่อตกลงกันว่าโอเคจะไป และจะขับรถไป รวมกันทั้งหมด 4 คน ศุภจอน คุณนายละเอียด พีรภัทร์ และเมริสา จึงจองโรงแรมล่วงหน้า 1 เดือน ให้แฟนรับหน้าที่จอง เพราะเชี่ยวชาญด้านนี้ ชีละเอียดยิบทุกขั้นตอนและความรอบคอบ จนผมตั้งฉายาว่าคุณนายละเอียด
จึงได้โรงแรมสามคืนดังนี้
คุณนายละเอียดทำแผนที่ไว้อย่างดี เอามาแปะไว้ในกลุ่มเฟชบุ้คที่เราตั้งขึ้นเพื่อเตรียมการ รายละเอียดการจองและราคา



1.วันที่ 30 Dec 2014 จองผ่านBookingพักที่ The elephant crossing คืนละ 45 USD 
http://www.theelephantcrossinghotel.com
2.วันที่ 31 Dec 2014 จองผ่านที่พัก พักที่ champa-lao คืนละ 960 บาท
http://www.champa-lao.com
3.วันที่ 1 Jan 2015 จองผ่านAgoda พักที่ Pongsavan resort คืนละ 650 บาท
https://www.facebook.com/PhongavanhResort 
เฉลี่ยแล้วค่าที่พัก 3 คืน ตกคนละ 16xx บาท

หลังจากที่โรงแรมโอเค ก็เป็นหน้าที่เจ้าของรถ เตรียมพาสสปอร์ตรถ คุณพีก็ไปจัดการมาเรียบร้อย ถ้ารถที่ไม่ใช่ชื่อตนเอง ต้องมีใบมอบอำนาจจากเจ้าของรถด้วยนะครับ เตรียมพาสสปอร์ตรถ พาสสปอร์ตคน แล้วก็นับถอยหลังรอให้ถึงเวลา



30 ธค 2557 พร้อมลุย : วันที่ 29 ไปพักที่หนองคายจะได้ไม่ต้องรีบมาก และกลัวรถอาจจะติด จึงได้โรงแรม มาติล่ะ เหลือห้องสุดท้าย +เตียงเสริม ใน ราคา 500 หาร 4 คน ถูกและดีครับ พอเช้า (เอาจริงๆ เที่ยง) ก็ออกเดินทางไปสะพานมิตรภาพไทย-ลาว



ตรวจคนเข้าเมือง : ตอนตรวจคนเข้าเมืองควรเตรียมปากกาไปทุกคน เพราะจะช้าตรงแย่งปากกากันเนี่ย



แจ้งคนเข้า แจ้งรถเข้า ใช้เวลากว่าสองชั่วโมง: ครั้งแรกก็เจ็บหน่อย ไม่ค่อยเชี่ยวชาญ เอกสารไม่ครบบ้าง ต้องไปถ่ายเอกสารเพิ่มบ้าง ไม่รู้ช่องไหนๆ เป็นช่องไหน ทำไมไม่ทำช่องเดียวจบ ก็ไม่รู้



ทำประกันรถ แลกเงิน : ผ่านตม.ไทย ต้องมาแจ้งเข้าที่ลาวด้วย ส่วนรถยนต์ต้องทำประกันในซาตลาวก่อน 50,000กีบ = 200 บาท ระหว่างรอพีทำประกัน ก็แลกเงิน 6,000 บาท เป็นเงิน 1,479,000กีบ กะใช้แบบเปรมๆ



เวลากว่าบ่ายสามจึงจะออกเดินทางไปเวียงจันทน์ได้ : พอข้ามด่านมาได้เราก็ตรงดิ่งไปวังเวียงเลย เพราะต้องขับรถอีกกว่า 180 หลัก(กิโลเมตร) ด้วยทางทุรกันดาร กลัวจะช้ามาก อ่อ อย่าลืม ขับเลนส์ขวานะจ้ะ



เราจอดแวะร้านชำที่เวียงจันทน์ เพื่อซื้อซิม จะได้มีเฟชบุคเล่นงั้ยยยยย
: ค่าซิม15,000กีบเติมเงินอีก25,000 รวม40,000 ประมาณ 160 บาท
แต่การเปิดซิมค่อนข้างมีขั้นตอนนะ ต้องส่ง sms ถ้าไม่ได้ ก็ต้องโทรไปคอลเซ็นเตอร์ ถ้าไม่เชี่ยวชาญภาษาก็คุยกันจนรำคาญไปข้างนึง
เช่น คอลเซ็นเตอร์ : ซื่ออะไร (ชื่ออะไร จะลงทะเบียนให้)
      คุณนายละเอียด : ซื่อที่ร้านค้า (ชื้อที่ร้านค้า) นึกว่าเค้าถามว่าซื้อที่ไหน !!!!
สุดท้ายต้องพึ่งผู้คักเติบ (ผู้เชี่ยวชาญ) แปลให้ ดีนะเคยเรียนภาษาอีสานมา 30 ปี



เจอด่าน : ตำรวจตรวจเอกสาร หนึ่งทีระหว่างทาง เป็นมิตรดีครับ พีถามว่าอีกไกลบ่อ บอกว่าอีกร้อยปาย (ร้อยกว่าๆ) ก็ไม่รู้กว่าเท่าไหร่ เราได้คำตอบโดยประมาณตลอดทั้งทริป



19.00 ถึงวังเวียง เช็คอินแล้วออกหากินอย่างไว : กว่าจะถึงหิวๆ คุณนายละเอียดตรงดิ่งไปร้านโรตี เลยเบรคไว้ก่อน เดี๋ยวไปกินมื้อแรก ริมแม่น้ำดีกว่า



พีรภัทร์กับเมริสา เลยซื้อซิมมั่ง : จะได้มีเฟชบุคเล่นไง



มื้อแรกที่ลาว 248,000 kip ที่ river view bungalow
: จำไม่ได้ อ่านไม่ออกอ่ะ มี ต้มยำไก่ แกงกะหรี่หมู ยำรวมทะเล และอื่นๆ ขาดไม่ได้เบีบร์ลาวรสชาติดี กินเท่าไหร่หาร 4 จ้า ศุภจอนได้เปรียบกินเบียร์อยู่คนเดียว ตกคนละ 62,000 kip ประมาณ 250 บาท



อิ่มแล้วก็เดินเล่นกลับโรงแรม : สำรวจราคาอาหารไปเรื่อย



คืนแรกหมดไปละ ไม่มีอะไรมาก เดินเล่น กินโรตี 22.30 นอน : มืดแล้ววิวไม่เห็น ไม่มีไรทำนอกจากไปบาร์ ไอ้เราก็ไม่ใช่คนดื่มเหล้าดื่มเบียร์อยู่แล้ว เหรอออ นอนกะดะ



โรตีร้านนี้อร่อย หน้าโรงพยาบาลวังเวียงนะ 10,000 up



ตื่นเช้ามา ก็ต้องว้าว :
พอรู้สึกตัวเปิดม่าน น้ำตาแทบไหล สวยมาก เพลียแค่ไหนก็ต้องตื่นๆ มาอัพรูปลงเฟชบุค (โรงแรมมีไวไฟ แต่นิยมล่มบ่อยๆ)



วิวจากระเบียง ตอนเจ็ดโมง อากาศ 15 องศา มีหมอกเล็กน้อย พอฟันออกปาก



ใช้ไอโฟนบ้าง กล้องใหญ่บ้าง โกโปรบ้าง สลับกันไป ไม่ได้วางแผนถ่ายรูป เลยมั่วๆ หน่อย ประมาณนี้ครับ



ทานมื้อเช้ากันๆ


เสร็จแล้วก็เดินเล่นตอนเช้านิดหน่อย ส่งโปสกาสด์หาตัวเอง สองใบ 36,000 kip เตรียมย้ายโรงแรมแล้วออกสำรวจโลก:
วันนี้ 31 ธค ย้ายไปเช็คอิน จำปาลาว วิลล่า แล้วก็ไปถ้ำจัง ไปบลูลากูน แล้วก็เตรียมเคาน์ดาวน์



สรุปสิ่งที่ได้ประสบการณ์ - ร้านอาหารคนเยอะต้องเผื่อเวลา อย่าปล่อยให้หิวมากแล้วค่อยไปทาน
                           - ราคาสินค้าส่วนใหญ่ จะไม่มีเศษ 500 ตำ่สุด 5,000 kip น้ำเปล่า 20 บาท
                           - อาหารแพงเพราะส่วนใหญ่ ต้องนำเข้าจากไทย ข้าวผัดร้านธรรมดา 17,000 kip 70 บาท
                           - เงินกีบใช้ "." ไม่ใช้ "," เช่น 15.000 คนลาวพูดว่า "สิบห้าพันกีบ" บอกหมื่นห้า เข้าใจแต่ไม่นิยม

ขอพักก่อนครับ เดี๋ยวมาต่อ.......เช้าวันที่ 31 .....(เตรียมย้ายโรงแรม) 

มาต่อครับ .......
ต่อไปนี้จะบอกค่าเงินเป็นกีบเท่านั้น เพราะน่าจะพอเข้าใจกันแล้ว คิดง่ายๆ 5,000=20 ,10,000= 40 ,15,000=60 , 20,000=80 อยู่แถวๆ นี้ครับ

31 ธค. 2557 ตื่น 07.00 ฯ ที่โรงแรม elephent crossing ทานอาหารเช้าที่โรงแรม แล้วเดินออกไปเพื่อที่จะดูทัวร์ ต่างๆ เราไม่ได้จองไว้ จึงรีบไปดู ทัวร์สุดท้ายตัดสินใจ เช็คเอาท์ เพื่อที่จะได้เอาสัมภาระเก็บที่โรงแรมที่สอง จำปาลาววิลล่า แล้วค่อยออกไปเที่ยว พอเช็คอินเสร็จก็เช่าจักรยาน คันละ 30,000
จำปาลาว วิลล่า



ชอบโรงแรมนี้ที่สุด เล็กๆ แต่อบอุ่น ดูแลอย่างดี เจ้าของน่าจะเป็นคนไทย



เช่าจักรยาน คันละ 30,000 24 ชม. + น้ำเปล่า 3,000 ปั่นไปถ้ำจัง ,บลูลากูน ตามแผนที่ที่เราเตรียมมาอย่างดี คนละชุด



ให้พี่ที่ดูแลเราที่โรงแรมบอกทางให้เสร็จสับก็ออกเดินทาง



กระเป๋าใส่ของจำเป็น น้ำ กล้อง ที่ชาร์ตสำรอง กางเกงว่ายน้ำ หมวกแว่น แล้วก็ออกเดินทาง
พลาดตรงเลือกจักรยานพัง ร้านดีดีมีไม่เลือก กลับมาตูดระบมสิครับ



ปั่นออกมาประมาณ 10.00 ประมาณ 3 หลัก (Km.) ถึงอุทยานถ้ำจัง เสียค่าเข้าอุทยาน คนละ 4.000 จอดจักรยานแล้วเดินข้ามสะพานสีส้ม สวยมากครับ อุทยานนี้ส่วนใหญ่คนลาวกับไทยจะมา ไม่ค่อยเจอเกาหลีกับฝรั่ง สงสัยยังไม่ตื่นป่าว




แล้วพอเดินไปเรื่อยๆก็ถึงทางเข้าถ้ำ จ่ายอีกคนละ 15.000 แล้วก็เดินขึ้นบันได 140 กว่าก้าว ขึ้นไปชมถ้ำจังครับ
เตรียมชุดกะทัดรัด ผ้าใบ หมวก แว่น เพื่อความมันและปลอดภัยครับ สำหรับถ้ำก็สวยครับ มีรูทะลุเห็นอีกฝั่งเขา แต่เราอยู่แป้บเดียว 12.00 ก็กลับ เพราะเป้าหมายเราคือ Blue lagoon!!! 





12.00 เราต้องกินเยอะๆ ครับเพราะเราต้องปั่นจักรยานไปบลูลากูนไกลถึง 7 หลัก ก็กินมื้อเที่ยง ผัดกระเพราไข่ดาวจานละ 35,000 ส้มตำอีก 15,000 ไฮโซกันไป อุตส่าห์หาร้านที่คิดว่าถูกแล้วนะ แต่ทำไงได้มันอยู่ปากทางที่เราต้องไปแล้ว เลยต้องกินกันไปก่อน



อิ่มแล้วก็ลุย แต่เดี๋ยวจ่ายค่าข้ามสะพานอีกคนละ 6,000 คนลาวเองยังบ่นเลย ทำไมไม่ทำสะพานฟรี 555
กว่าจะได้ภาพนี้มันค่อนข้างลำบากเพราะรถผ่านเยอะ ต้องทำตัวไทยแลนด์โอนลี่คลั่งเซลฟี่เต็มที่แบบไม่แคร์พี่ลาว555



ยังไม่ถึงไหน พีรภัทร์ลืมที่ชารต์โกโปร จึงกลับไปเอาที่โรงแรม เราก็ดื่มกาแฟรออยู่ที่ร้านพี่บัวสวรรค์ ใจดี มีลูกสาวชื่อปาล์มมี่



ต้องบอกว่าทางโหดมาก ขึ้นลงเขา กรวดก้อนใหญ่ ดินแดง ต้องพักจูงบ้าง ผ่านไปแค่โลเดียวตูดระบมแล้วว ไม่เอาอะไรแล้ว
แต่ก็ไม่ลืมมีรูปสวยๆ มาฝาก



ระหว่างทางอันกันดารมีเด็กนักเรียน น่าจะเป็นชาวเขา เพราะเราทักสะบายดี แล้วเขาตอบแปลกๆ ไม่ใช่ภาษาลาว ภูมิประเทศก็อย่างที่เห็นโหดมาก แม้ยังมีหมู่บ้านอยู่เป็นระยะๆ ยังดีมีร้านเติมลม จักรยานอีกคันเริ่มยางแบน เลยแวะเติมลมบ้าง หลบวัว ควายบ้าง มันสนุกตรงที่เราปั่นไปด้วยกันแล้วค่อยๆ ประคองกันไป ใครมีผ้าก็เอาออกมากันหน้ากันฝุ่นแบ่งน้ำกันกิน  ชมวิวไป แป้บเดียวก็ถึงบลูลากูน ......
เดี๋ยวมาต่อ บลูลากูนครับ.......... 

ต่อครับ .........Blue lagoon
(ต่อไปนี้จะเขียนข้อความก่อนข้างบนภาพนะครับ น่าจะดูง่ายกว่า อ่านแล้วดูรูป)
หลังจากที่เราปั่นจักรยาน ระยะทางประมาณ 7 Km. แต่ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
15.30 ก็ถึงถ้ำภูคำ



เสียค่าเข้า 10,000 kip มีกิจกรรม แอดแวนเจอร์ต่างๆ ที่ทัวร์เกาหลีนิยม คือการโรยตัวไปกัยลวด(ไม่รู้เรียกว่าอะไร) แต่เราโฟกัสมาที่ ฝรั่งอาบแดด ..ไม่ใช่!! เล่นน้ำครับ กระโดดน้ำบลูลากูนครับ ทำใจให้พร้อม น้ำเย็นฉ่ำแล้วไปกระโดดกันเลย



สาวๆ เยอะเราขึ้นชั้นบนสุดเลย โชว์หน่อย ชั้นล่างมันเด็กๆ : ดูภาพมุมนี้เหมือนไม่สูงนะ



แต่...........โดดปุ้บ...เมื่อไหร่....มันจะ ....ถึง...สักที.....อ้าก.....เสียว......!!!! พยายามเก็กหน้านิ่งสุดๆ



ก็มีคนกล้าโดดมั่งไม่กล้าโดดมั่ง แต่ใครมาแล้วไม่โดด ก็มาถึงนั่นแหละ แต่ ป้อด 5555 เอาหน่อยๆ ครับ นี่ยังเสียดายโดดแค่สองรอบเอง น้ำใสมาก เย็นมาก สีฟ้าสมชื่อจริงๆ ครับ

เล่นน้ำเสร็จ 17.00 ปั่นกลับ ด้วยใจท้อแท้ ครับ ไม่อยากปั่น เจ็บก้นไปหมด เบาะจักรยานแข็งยิ่งกว่าหิน เลยดิฟจักรยานเล่นกะให้พัง จะได้บอกเพื่อนๆ ว่า เช่ารถเถอะ



สุดท้าย จักรยานไม่พัง แต่เราพร้อมใจกันเช่ารถกระป้อ โดนพี่ลาวขี้โกงเอารถเหมามารับเราบวกค่าเช่าเพิ่มไปอีก คนละ 20,000
รถแบบนี้ เอาจักรยานขึ้นหลังคา



18.00 น. ถึงในเมืองวังเวียง กินส้มตำ คนเยอะมาก ร้านตรงสามแยก สั่งปีกไก่แปดไม้ หายไปครึ่งชั่วโมง ปรากฏว่าหายไปโต้ะไหนไม่รู้คนเยอะมากๆ มาตอนทัวร์ลงพอดี เซ็งกินไม่อิ่ม นาน ขาดตอน ไม่เป็นไร กินๆ ไป เอาแรง ตอนเย็นเราต้องไปเคาน์ดาวน์ นี่ๆ ฮี่ๆๆๆ ส้มตำรวม 4 คน 188,000 kip
กินเสร็จ กลับที่พัก เล่นเฟชบุค อาบน้ำแต่งตัว นับเงิน อย่างร่อยหรอ เงินหายไป แบ่งไปจ่ายโรงแรมวันแรกไม่ติดใจเท่าไหร่ 720,000 แต่กับการซื้อน้ำ กินกาแฟ และโรตีที่เกินจำเป็น เงินเป็นล้าน เหลือเพียง 115,000 นี่ยังไม่ได้เมาเลยนะเฟ้ยยยย เอาๆ คงพอแหละ ไปๆ  21.00 เดินออกจากที่พัก ไปหาที่วัยรุ่นเยอะๆ เคาน์ดาวน์ แฮงเอาท์ อะไรก็ได้ เอาให้เละ แล้วก็ได้ที่เดิมที่เคยรั่วรอบกองไฟเมื่อสี่ปีที่แล้ว Smile Bar...

เป็นบาร์ริมแม่น้ำที่ใกล้เมืองที่สุด (นอกจากตรงสะพานน้อยตรงใจกลางนะ) มีเพื่อนๆ ฝรั่ง ลาว เกาหลี มาแฮงเอ้ากัน รอบกองไฟ โดยจะมีแคร่ใหญ่เป็นเวที ใครพร้อม ดีกรีถึงก็ขึ้นไปออกสเต็บกันบนนั้น



เราเลือกกิจกรรม Ice bucket เพื่อจะได้บุญกุศลด้วย ถุ้ย!!! เหล้าถัง ถังละ 40.000 ดูจะคุ้มและเมาไวสุด



หลังจากนั้นก็ เค้าดาวน์แบบงง งง เมื่อกี้ยังเต้นๆอยู่ ปีใหม่แล้วเหรออ แล้วมันต้องยังไงอ่ะ 555
สะบายดีปีใหม่ ๆ



หลังจากภาพนี้ประมาณครึ่งชั่วโมง ภาพตัดครับ สรุปค่าใช้จ่าย เหล้าถัง 2 ถัง 80,000 + เบยลาว 15,000 +เบยขวดเล็กอีก 2 ขวด 20,000 แค่นี้ก็กลับห้องไม่ไหวแล้วครับ แถมยังไปสร้างวีรกรรมไว้อีกด้วย หมดเป็นแสน....

สูตรเหล้าถังเผื่อใครจะทำดื่มครับ
เหล้า +เบียร์ + โซดา +สไปรส์ + กระทิงแดง + น้ำผลไม้แล้วแต่ชอบ ใส่ๆไปเหอะ ไม่ได้ตวง เดี๋ยวก็ร่วงเหมือนกัน....
หลังจากนี้ นอนพักครับ พรุ่งนี้จะไป คักยิก เอ้ย คักยุก เอ้ย คายัค ถูกแล้ว!!!
เดี๋ยวมาต่อ ครับ...... 

ต่อครับ.......
จะจบแล้ว อันสุดท้ายแล้วเดี๋ยวยาวไปน้อ
กู้ดมอนิ่ง ปีใหม่ 1 มค 2558 อารหารเช้า ที่ จำปาลาว เดอะ วิลล่า เป็นพวกแซนวิช ก็ คนละ 300 กว่าบาทก่อนออกไปหาเรือคายัคพายล่องแม่น้ำซองครับ



เรือคายัคตกคนละ 400 บาท รวมระยะทาง 8 km มีไกด์พายนำทางให้ เพราะจะมีบางแก่งติดหินต้องไปตามเส้นทาง



ต้องบอกว่าไฮไลท์อยู่ตรงนี้ครับ สวยมากๆ พายไปก็สนุก ชมธรรมชาติไป ไม่รู้สึกเหนื่อย เราออกเที่ยงครึ่ง พอครึ่งทางจึงแวะทานข้าว จะมีบาร์ตามริมแม่น้ำครับ มีกิจกรรมให้เล่นครับ เปตอง อาบแดด ปิงปอง บาสเกตบอล มีน้ำพุ่งออกมาจากแป้น




ไม่ค่อยมีรูปวิวมากครับ ส่วนใหญ่ถ่ายแต่วิดิโอ ไว้อัพโหลดแล้วจะมาแปะไว้ครับ
เราพายเรือกันหลายชั่วโมง ทิ้งสัมภาระไว้ในรถ (สะดวกตรงนี้แหละ) แล้วเสร็จเมื่อไหร่ค่อยไปโรงแรม ประมาณ 17.00 ก็ไปเช็คอินโรงแรมพงสวรรค์ครับ



พักเหนื่อยเสร็จ อาบน้ำแต่งตัวเดินเล่น มื้อเย็นตั้งเป้าหมายไว้ที่ ซิ่นย่าง หรือหมูกระทะ ครับ ร้านนี้คนเกาหลีเพียบ ไม่รู้ดังเพราะอะไร แต่หน้าร้านเหมือนมีซีรี่ส์เกาหลีเคยมาถ่าย ร้าน PEEPING SOM ครับ อร่อยดี



จะจบแล้วครับ มีแต่รูปเซลฟี่ หลังจากซิ่นดาด เราก็ไปเดินเล่นย่อยอาหาร มีตลาดนัดคลุกฝุ่นแถวโรมแรม ส่วนใหญ่เสื้อผ้าจะมาจากเวียดนามมั้ง ไซต์เล็กใส่ไม่ได้ ก็ไปนอนหลับเป็นตาย ตื่นเช้ามาไปวิ่งนิดหน่อย ตั้งใจว่าจะมาวิ่งที่นี่ แล้วก็ทานมื้อสายๆ ก่อนกลับครับ 

มื้อสายๆ ประมาณเก้าโมงครึ่งเกือบหมด ตอนวิ่งเล่นในเมืองเจอร้านนี้เลยชวนพีกับเมริสามากิน ประทับใจอร่อยครับ ถาดปรุงมีผงชูรสด้วย เลือกอร่อยตามใจชอบ 555 ขนมเส้น ข้าวเปียก บันกวน(อันหลังไม่แน่ใจครับ)ชามละ 15,000 ถูกสุดแล้วมั้งในเมือง คืออาหารประเภทขนมจีน โจ้ก และปากหม้อครับ ทานเสร็จก็ เดินทางกลับเลยครับ




ทิ้งท้ายกับรูปนี้นะครับ กลัวว่าจะยาวไป จริงๆ ตอนกลับเราหลงทิศทางนิดหน่อย ต้องกลับเวียงจันทน์ แต่หลงไปทางหลวงพระบาง (ตรงข้ามเลย) แค่70 km เอง เพราะไม่ยอมดู GPS มั่นใจมาก 555 แต่ก็คิดซะว่า เพื่อรูปนี้



สรุปทริปนี้ สามคืน สี่วัน แบบอยู่สบาย กินสบาย รวมค่าอยู่ค่ากินค่าน้ำมัน ก็คนละประมาน 5,000 - 6,000  อยู่ รถเบ้าโชคแตก เพราะลุยหลุมมากไป กล้องใหญ่เทอะทะสำหรับ แอดเวนเจอร์ เตรียมร่างกายให้แข็งแรง ไม่ควรดื่มมากระหว่างทริป จะไม่มีเรี่ยวแรงเที่ยว 555 ประมาณนี้ครับ สวย หลง รัก สนุก หนาว ร้อน ลุย ครบรส .....ขอบคุณที่ทนอ่านครับ ผิดพลาดประการใด ขออภัยมือใหม่ครับ...สบายดีปีใหม่ 

ขอบคุณคุณ malibubeat จาก http://pantip.com/topic/33062554