Blog Full Width


เมือกหอยทากคืออะไร

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

เมือกหอยทาก คือสารคัดหลั่งของหอยทากที่ผลิตมาเพื่อประโยชน์ สำหรับการปกป้องผิวของหอยทาก ทั้งในขณะเคลื่อนที่และพื้นผิว ที่สัมผัสกับอากาศตลอดเวลาซึ่งเมือกหอยทากนี้จะปกป้องส่วนที่สัมผัส พื้นดินในเวลาเคลื่อนที่ ลดแรงเสียดทานเหมือนเป็นการปูพรมขณะเดิน ที่สำคัญเมือกที่ผลิตออกมายังช่วยสมานแผลบนเนื้อเยื่อของมันเองที่เกิด การขูดขีดเสียดสีกับพื้นผิวขรุขระ ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเปลือกของหอยทาก ได้รับความเสียหายแตกออก หอยจะใช้น้ำเมือกในส่วนของแมนเทิล (Mantle) ที่อยู่ในชั้นถัดจากฝากระดองหอย ซึ่งถือเป็นเมือกหอยทาก ส่วนที่ดีที่สุดมาช่วยซ่อมแซมและสร้างเปลือกใหม่ให้ตัวเอง แสดงให้เห็น ถึงพลังแห่งการฟื้นฟูของเมือกหอยทากอย่างน่าอัศจรรย์

สารพัดคุณประโยชน์เมือกหอยทาก

ข้อมูลจากการศึกษาวิจัยพบว่า สารสกัดจากเมือกหอยทากมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ ช่วยฟื้นฟูผิว โดยทำการซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหายตามธรรมชาติ มีประสิทธิภาพในการผลัดเซลล์ผิวใหม่ ช่วยสร้าง ความชุ่มชื้นให้ผิวเพื่อป้องกันการเกิดริ้วรอย เพิ่มความยืดหยุ่นของผิวทำให้เกิดการยกกระชับผิวได้ดีเยี่ยม และช่วยให้ผิวผลิตสารที่มีฤทธิ์หยุดยั้งการเติบโตของเชื้อโรค ซึ่งส่วนผสมหลักที่มีอยู่ในเมือกหอยทากทั่ว ๆ ไปคือ
  • สารอัลแลนโทอิน (Allantoin) เป็นสารต้านการอักเสบและระคายเคืองต่อผิว และยังช่วยเพิ่มปริมาณน้ำในเซลล์ผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้น ฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ และลดริ้วรอยได้ดี พร้อมเร่งการผลิตเซลล์ผิวใหม่
  • กรดไฮยาลูโรนิก มีคุณสมบัติในการดูดน้ำและช่วยพยุงเนื้อเยื่อให้แข็งแรง จึงช่วยทำให้ผิวเต่งกระชับ ชุ่มชื่น
  • กรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และควบคุมความมันของผิว
  • โปรตีน (Protein) มีคุณสมบัติเป็นอาหารให้กับผิว ช่วยปรับสภาพผิวให้กระจ่างใสมากยิ่งขึ้น
  • เปปไทด์ (Peptides) ออกฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา
นอกจากนี้ เมือกหอยทากยังมีคุณสมบัติในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน เป็นการเพิ่มความแข็งแรงให้ กับผิว ด้วยคุณสมบัติที่เปี่ยมประโยชน์ต่อการบำรุงผิวพรรณเหล่านี้ จึงได้มีการนำเมือกหอยทากเข้ามาใช้เป็นส่วนผสม ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจนเป็นที่แพร่หลายในปัจจุบัน

หอยทากสายพันธุ์ไทย... สายพันธุ์ที่ดีที่สุดสำหรับผิวของคนไทย และคนเอเชีย

ศาสตราจารย์ ดร. สมศักดิ์ ปัญหา อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ และหัวหน้าหน่วย 
ปฏิบัติการวิจัย ซิสเทมาติกส์ของสัตว์และผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศแห่งชาติด้านความหลากหลายทางชีวภาพ 
ผู้เชี่ยวชาญเรื่องหอยและทำการศึกษาค้นคว้าเรื่องเมือกหอยทากมาอย่างยาวนานกว่า 30 ปี 
กล่าวว่า หอยทากสายพันธุ์ไทยมีอยู่ 600 กว่าสายพันธุ์ ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษที่มากกว่าหอยทากสายพันธุ์ 
จากต่างประเทศ เนื่องจากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ต้องเผชิญเชื้อโรคในเขตร้อน จึงมีสารที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อโรค 
ที่มีความหลากหลายได้ดีกว่า และเมื่อเปรียบเทียบความเข้มข้นของเมือกหอยทากพบว่าเมือกหอยทาก 
สายพันธุ์ไทยมีสารสำคัญที่ให้ประสิทธิภาพสูงกว่าเมือกหอยทากสายพันธุ์ต่างประเทศถึง 30 เท่า


ซึ่งเป็นส่วนผสมที่มีอยู่ในสบู่ Gaysorn Soap